วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ข้อคิดเรื่องน้ำท่วม..

วันก่อนน้ำท่วม กรุงเทพ 28 พ.ย.

,,,,,,,,วันนี้เป็นวันที่รถในกรุงเทพฯ ถนนโล่ง เดินออกจากบ้านไปมหาวิทยาลัยปกติใช้เวลา 15 นาที วันนี้ไม่ถึง 10 นาทีก็ถึง มหาวิทยาลัยแล้ว. ผมคิดว่าคงไป ตจว.กัน เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการยาว หรือนำรถไปจอดตามที่สูง ซึ่งช่วงนี้ไม่ต่างจากวันหยุดยาวช่วงเทศกาล สงกรานต์ ปีใหม่เลย แต่ผมเดินไปทางไหนวันนี้ บ้านเมืองเราไม่ปกติเหมือนเดิมแล้ว เพราะ ไม่ว่าจะเดิน ไปห้าง ร้าน หรือบ้านประชาชนก็จะเจอ การก่ออิฐถือปูนสูงเกือบครึ่งเมตรเป็นอย่างน้อยทั่วไป.....

ช่วงที่เดินผ่านผู้คน หลายๆคน ผมสังเกตว่าหลายๆคน อยู่ในบรรยากาศความเครียด หวาดกลัว วิตกกังวล ที่จะเกิดจากน้ำท่วมอาจเป็นเพราะเรารับข้อมูลข่าวสาร ต่างๆจำนวนมากนั้นเอง ส่วนผมเองก็ตกใจไม่ต่างจากเขาเหล่านั้นหรอกครับ..เพราะเป็นผู้เสพข่าว บริโภคข่าวสารอยู่ทุกวันเฉกเช่นหลายๆคนในยุคของโลกข้อมูลข่าวสาร เราจะดำเนินชีวิต หรือทำกิจกรรมกรรมอะไร..ข้อมูล ข่าวสาร เป็นส่วนหนึ่ง กรอบข้อมูล และเป็นส่วนประกอบที่สำคัญแล้วในการตัดสินใจของเรา


ปรากฏการณ์ใน เฟซบุ๊ค ที่ผมเล่นอยู่ทุกวัน เป็นเครือข่ายออนไลน์ ที่เชื่อมคน เชื่อมโลก แห่งข้อมูลข่าวสารมากมากมายที่เร็วและถึงต่อกัน และมีการตอบกลับอย่างรวดเร็ว...ปรากฏการณ์ที่ผมรับอยู่ มันมีทั้งข้อมูลที่เป็นจริง และข่าวลือ แล้วข่าวจริงมันคืออะไร ? อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแต่ละคนจะรับมือกันอย่างไร...ถ้ารับมันไม่ได้ก็เกิดเป็นความเครียดตามมา....


แต่เท่าที่ผมสังเกตตามข่าวใน เฟชบุ๊ค จะมีข่าวที่นำเสนออยู่ สองประเภท คือ ภาพสถานการณ์ ความเสียหาย การโจมตีของน้ำ การออกมาเตือน ป้องกัน การคาดเดาสถานการณ์ ของนักวิชาการหลายสำนัก ความหนักหนาความรุนแรง ฯลฯ อีกด้านหนึ่งนำเสนออีกประเด็น คือ การเยียวยา การช่วยเหลือ อาสาสมัคร ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ช่วงวิกฤต น้ำท่วม ฯลฯ
ในสังคมออนไลน์จะนำเสนอมุมมองประมาณนี้ แต่ผมยังไม่ค่อยเห็น คนยินดี หรือ ดีใจกับน้ำท่วมเลย...สมัยก่อนเรามีพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับเรือ เกี่ยวข้องกับน้ำมากมาย จนเกิดเป็นเพลงสนุกสนาน เช่น เพลงเรือ หรือน้ำหลากช่วยป้องกันศัตรูที่จะมารุกรานเรา ฯลฯ


อาจเป็นเพราะบ้านเมืองเราแตกต่างจากอดีต ทั้งสภาพสังคม เศรษฐกิจ บ้านเรือน สถาปัตยกรรมสิ่งปลูกสร้าง... ใน อดีตเราปลูกสร้างบ้านเรือนชั้นเดียวยกพื้นสูง ปัจจุบันเรานิยมบ้านก่ออิฐถือปูน ชั้นเดียวหรือสองชั้นตามแบบตะวันตก...น้ำหลากก็เลยมองว่าน้ำท่วมบ้านแล้ว...ถ้าย้อนเวลาไปได้เหมือน แม่มณีในทวิภพ คนสมัยนั้นคงอาจบอกว่าน้ำมาแล้วได้เวลาล่องเรือหาปลา หรือ น้ำนำตะกอนความอุดมสมบูรณ์มากอีกแล้ว....แต่ปัจจุบันน้ำมา..มีแต่กลัวว่าจะท่วมบ้านเราไหม จะป้องกันอย่างไร จะเตรียมตัวอย่างไร.เราเจอน้ำเสียไหม มีสารเคมีไหม กลัวขยะที่มากับน้ำ..?

อย่าลืมนะครับ...ถ้าเราดูแผนที่เมือพันกว่าปี ปากน้ำเจ้าพระยาแทบนี้ก็เคยเป็นทะเล เพิ่งถูกทับทมมาเป็นแผ่นดิน ด้วยน้ำท่วม และตะกอนจากน้ำท่วมเราจึงมีแผ่นดินอยู่..เป็น กทม. ทุกวันนี้


นี่แหละนะความเจริญที่เรากำลังทำตัวออกห่างจากธรรมชาติ...คนอดีตเขาอยู่กับธรรมชาติปรับตัวเข้ากับธรรมชาติ คนสมัยนี้พยายามที่จะเอาชนะธรรมชาติ....เมื่อมีการฝืนธรรมชาติ ธรรมชาติไม่ได้เอาคืนนะครับ... เขากำลังที่จะปรับสมดุลของเขาจากการฝืนธรรมชาติของมนุษย์....ที่จะเอาชนะและอยู่เหนือธรรมชาติ...ทั้งที่เราทั้งหลายอยู่ในธรรมชาติ

ท่านพุทธทาส ก็เคยกล่าวว่า ธรรมะ ก็ คือ ธรรมชาติ...:)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น