วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

รีวิว รถทัวร์ บขส."หมอชิต-เสียมเรียบ"

สะดวก ประหยัด ปลอดภัย
สวัสดีครับ ทุกท่าน ที่รักการเดินทาง สะดวกสบาย และที่สำคัญประหยัด.....
ผมได้มีโอกาสทางด้วยการบริการของ บขส. ไม่ขอพูดพร่ำมากมาย ขออนุญาต รีวิวการเดินทางกันเลยแล้วกันนะครับ....
การเดินทาง ก่อนอื่น...จะเดินทาง
1. การซื้อตั๋ว ซื้อได้ที่ไหนบ้าง  โดยตั๋วมี ราคา 750 บาท ขาไป  ส่วนขากลับ ราคา แพงกว่านิดหน่อย

มีบริการซื้อตั๋วที่สถานที่ขนส่งที่หมอชิต หรือ ไม่สะดวก เหมือนกระผมก็สามารถจองผ่านทางโทรศัพท์ จ่ายเงินที่เซเว่น รับตั๋วที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์....ได้เลยนะครับ. จ่ายตั๋วที่ เซเว่น (มีค่าบริการ 20 บาท)


รับบัตรที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์
ทำไมต้องจอง...?
ย้ำ*** ขาไปเสียมเรียบ ต้องจองครับ..เพราะเต็มทุกที่นั่งจริงๆ  เพราะชาวต่างชาติเดินทางจำนวนมาก..วันที่ผมเดินทางมีคนไทยเพียง 2 คนครับ..นอกนั้นชาวต่างชาติทั้งนั้น....
โดยสำรองผ่านทางเว็บ บขส. ได้ตามลิงก์นี้เลยครับ.. http://58.181.228.8:8080/transport/index.php
หรือ โทรจอง (สะดวกมาก)  02-872-1777 หรือ จองผ่าน เว็บไซต์ บขส.  http://58.181.228.8:8080/transport/index.php
การจองผ่านเว็บไซต์ ของ บขส.
การรับตั๋ว...
กรณีที่ 1. ตั๋วผ่านโทรศัพท์ ซึ่งต้องจ่ายเงินภายในระยะเวลาที่กำหนด..โดยจ่ายที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส ใน 7 Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ หลังจากนั้น นำตั๋วไปออกบัตรที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์..ก็ได้ตั๋วมาแล้ว
กรณีที่ 2 ตั๋วผ่านโทรศัพท์  โดยจ่ายที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส ใน 7 Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ แต่ไม่สะดวกรับตั๋วที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ มารับตั๋วได้ที่ ช่อง 21 ก่อนรถออกเดินทาง ครึ่งชั่วโมง ครับ...
กรณีที่ 3 ซื้อที่สถานี รับตั๋วในตอนนั้นได้เลย ที่ช่อง 21 สถานีขนส่งหมอชิต 2 ครับ....
2. การขึ้นรถขึ้นรถที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 หลังรับตั๋วมาแล้ว ยื่นตั๋วให้เจ้าหน้าที่ รถจะออก ที่ช่อง 106 ครับ..

ยื่นตั๋ว รอขึ้นรถเลยครับ มีเจ้าที่
1 คนเด็กเดินรถจะคอยอำนวยความสะดวก จัดกระเป๋า เข้าเก็บเข้าที่ พอขึ้นรถ ก็นั่งตามที่ได้จองไว้ ครับ...จำนวนที่นั่ง กระผมจำไม่ได้มีกี่ที่ แนะนำ แถว 1 2 3.....นะครับ..ที่นั่ง จะแบ่งเป็น A B C D ครับ..
การเดินทางรถของ บขส.มี ห้องน้ำบริการด้วยภายในรถ ครับ..
3.การบริการภายในรถ
ที่นั่ง  ที่นั่งสามารถปรับเอนนอนได้ครับ..อาจไม่สะดวกเท่าไหร่ ครับ..
บริการอาหารว่าง / กลางวัน





อาหารว่าง จะมี น้ำดื่ม 1 ขวด ขนม  1 ชิ้น และกาแฟ โดยจะมีพนักงานคอยบริการน้ำร้อนครับ..
อาหารเที่ยง จะบริการเป็นอาหารกล่อง
1 อย่างครับ..

อาหารมื้อเที่ยงครับ...
ทั้งนี้ ระหว่างเดินทาง ขาไป จะจอดที่ปั๊ม น้ำมันแถวพนมสารคามครับ..สามารถเข้าห้องน้ำ พนักงานจะแจ้งว่า รถจอด 10 นาที ใครที่จะเข้าห้องน้ำ หรือ เข้าเซเว่น ก็ได้ครับตุนสเบียง

ที่พักระหว่างทางครับ.

4.ระยะเวลา เดินทางโดยประมาณ
รถออกจากหมอชิต 2 เวลา 09,00 น. ทุกวัน รถเดินทางถึง ด่านอรัญประเทศ ประมาณบ่ายโมงครึ่งครับ...และทำบัตรผ่านแดน

จะมีเจ้าหน้าที่บริษัท นัทกาญ ชื่อ คุณ จอห์น ชาวกัมพูชา พูดไทยได้มาแจกป้าย บขส.เพื่อป้องกันแท็กซี่ต่างๆมาสอบถาม สร้างความรำคาญ และก็ไม่มีคนมาวุ่นวายจริงๆ
การทำบัตรผ่านแดนจะนานหน่อย ครับ..เพราะฝรั่งต้องทำวีซ่า กว่าจะออกได้ ก็ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ประมาณบ่าย 3 โมงระหว่างนี้...ก็พักรอฝรั่งที่ร้านกาแฟ มี ทรู คอฟฟี่บริการครับใกล้รถจอด ใครจะเล่นอินเทอร์เน็ต หรือ ชาร์จแบตโทรศัพท์ มีบริการฟรี....












ปอยเปต ถึงเสียมเรียบ (ระยะทาง 155 กม.)ถนนสภาพดีครับ.. เดินทางถึง โมงเย็นกว่าแล้วครับ...

พอถึงจุดนี้...ให้จองตั๋วและจ่ายเงินได้เลย ถ้ารู้วันกลับแน่นอน จะมารับตั๋ววันที่เราเดินทางได้เลย (วันที่ผมเดินทางมี ผู้ร่วมเดินทางกลับเพียง 13 คนเท่านั้นครับไม่เต็ม แต่เพื่อความแน่นอน จองไว้ดีกว่าครับ)




5.เสียบเรียบพักที่ไหน? จะไปเที่ยวที่ไหนดี....

ตอนลงจากรถ จะมี ตุ๊กตุ๊ก ที่โน้นวิ่งมาสอบถามเรา ไปไหนดี พักไหน ครับ...แต่เขาพูดภาษาอังกฤษนะครับ..
สังเกต นะครับ..รถจอด ตุ๊กตุ๊กจะเป็น รถของวินบริษัทนัทกาน ที่ได้สัมปทานเดินรถในเขมร ครับ..จะเข้ามาพูดคุย..
ผมโชคดีหน่อย เจอคนขับตุ๊กๆ ที่พูดภาษาไทย ได้ก็เลยพูดคุยกัน และให้พาไปหาที่พักครับ....
ก็ตกลงราคาให้พาไปหาที่พัก ประมาณ
2 US ปกติครับ..เรทนี้..
ผมแนะนำเลยครับ พี่เขาชื่อ ทีน่า เคยมาทำงานที่ประเทศไทย มีญาติที่กบินบุรี ครับ..เบอร์โทรติดต่อ 083300423 เป็นคนที่สุภาพ และขี้เกรงใจครับ..
บริการรถพี่เขา จะมีที่สำหรับชาร์ตมือถือ ด้วยครับ..และมี น้ำดื่ม แชร์เย็นให้ 1 แพ็คใหญ่เลยครับ...(น้ำดื่มที่นี่ แพงมาก ผมซื้อ ที่ปราสาทมีราคา 1 -2 US)

ส่วนที่พัก ตุ๊กตุ๊กส่วนมากจะพาไปที่ตัวเองรู้จักและพาไปที่ตนเองจะได้เงินพิเศษ ซึ่งราคาจะแพงกว่าปกติ..ดังนั้นผู้ที่จะเดินทางต้อง มีที่พัก ที่ค้นหาไว้ในเมืองไทย นะครับและบอกเขาให้พาไป...


ส่วนผมพักที่ โรงแรม Angkor pearl hotel ครับ คืน ละ 25 US ก็ตกประมาณ 700 กว่าบาท..บรรยากาศในห้องพักไม่ขออธิบายมาก  ที่สำคัญใกล้ที่ขึ้นรถ กลับและห้างใหญ่ที่สุดของเมืองมีซุปเปอร์มาร์เก็ต ขนาดใหญ่บริการเวลาหิวๆ


ขออนุญาตรีวิวเป็นภาพนะครับ...

โรงแรมแห่งนี้ จะมีอาหารเช้าให้ด้วยนะครับ..อาหาร อาจจะไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่ แต่พอทานได้ครับ...
ผมพักที่นี้ 3 วัน อาหารจะสลับกันนะครับ..วัน เว้นวันแต่เมนูเดิม...





หากท่่านใดทานอาหารไม่ถูกปาก มีห้างสรรพสินค้า ชื่อ LUCKY ครับ..มีสินค้าขายมากมาย และใกล้ วงเวียน มี KFC ขายดวยนะครับ...

ราคาสินค้าที่นี่จะค่อนข้างแพงนะครับ...

ออ ด้านบนชั้น 2 ของห้างมีเบอร์เกอร์ ร้านดังสุดของเมือง

ชั้น 3 มีร้าน บุพเฟ่ เค้าว่ากันว่าอร่อยที่สุดในเมือง ครับ..ไม่แพงมาก จำไม่ผิด 4-5 US ทานได้ 1 ชั่วโมงครึ่ง (เค้าว่ากันว่าหัวหน้าพ่อครัวซื้อมาจาก MK น้ำซุปแปะมาก )
ราคาสินค้าที่โน้น นะครับ..ลองๆถ่ายมาให้ชม
























6. ได้ที่พักจะไปเที่ยว ปราสาทหิน อย่างไร....


รถที่มาส่งเรา เขาจะชวนเราคุย ว่าพรุ่งนี้ จะไปเที่ยวไหน จะพาไปเที่ยวครับ...ก็พูดคุยตกลงกันได้นะครับ...ผมแนะนำรถที่มาส่งเลยครับ...เพราะเป็นรถบริษัท ที่สามารถตามตัวคนขับได้...

การเช่ารถตุ๊กๆ


เรทในส่วน รถตุ๊กตุ๊ก เหมาทั้งวัน...นะครับ..
กระผมพูดคุยกับคนขับรถ โดยตกลงดังนี้นะครับ.


วันแรก ไปนครวัด และตัวนครธม..โดยให้เขาไป
18 US นะครับ...

วันที่สอง ไปบัณทายศรี และวงกลับเข้ามาปราสาท ตาพรหม เก็บตกตัวปราสาทแถว นครธมอีกครั้ง ตรงนี้จะแพงหน่อยนะครับ เพราะบัณทายศรี ไกลมาก ห่างจากเสียมเรียบ ก็ประมาณ
30 กม. ราคาจึงเพิ่มขึ้นมา 25 US ครับ....

และวันกลับลองสอบถามจาก คนขับรถ เพราะอยากทราบเรทจริงๆว่าเท่าไหร่..
เจ้าหน้าที่บนรถ คนเขมร ชื่อจอห์น ที่จะเป็นคนอำนวยความสะดวกต่างๆ ผมถามไปว่า ปกติเรทจะอยู่ที่เท่าไหร่


พี่เขาตอบว่า ปกติ ราคารอบนครวัด นครธม จะอยู่ ที่
15 US แต่ออกรอบนอกหน่อย ก็ 18 US แต่ถ้าออกไกลหน่อย เช่น บัณทายศรี ก็จะตก 25 US
ซึ่งสอดคล้องกับเจ้าหน้าที่ คนหนึ่งเป็นคนไทยที่ทำพิพิธภัณฑสถาน Angkor เสียมเรียบ  โดยเดินทางกลับมา กทม.พร้อมกัน ก็จะเล่าค่าใช้จ่ายก็จะประมาณนี้
แต่เจ้าหน้าที่ท่านนี้ เล่าเพิ่มเติมว่า...
การเที่ยวปราสาท ที่เสียมเรียบ จะมีอยู่
3 วง ถ้า
วงใน คือ นครวัด นครธม ก็จะอยู่ประมาณ
15 US
วงในและปราสาทรอบๆ ใกล้ ก็เพิ่มมา
18 US
ส่วนวงนอก ก็จะเพิ่มขึ้นมา 25 US เป็นขั้นต่ำ ครับ....

แผนที่กลุ่มปราสาท




แผนที่นครธม



บัตรเข้าชมปราสาท 1 วัน 20  US เที่ยวได้ทุกปราสาท
บัตร 3 วัน 40 US เที่ยวได้ทุกปราสาท (ใน 3 วันนี้เที่ยวได้ภายใน 1 สัปดาห์นับแต่วันซื้อเท่านั้น)






















ข้อมูลปราสาทผมจะมาเพิ่มเติมข้อมูลครับ



วันจันทร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2556

CentralWestGate (เซ็นทรัลเวสท์เกต)


ซีพีเอ็นเนรมิตประวัติศาสตร์หน้าใหม่วงการรีเทล

เปิด “CentralWestGate” ต้นแบบ ซูเปอร์รีจินัล มอลล์ ที่ดีที่สุดในเอเชีย
สุดยิ่งใหญ่อลังการ มูลค่ากว่า 10,000 ล้าน บริเวณแยกบางใหญ่

·       พลิกโฉมบางใหญ่ให้เป็นเมืองใหม่ ชูคอนเซ็ปต์ “MetAsia” เมืองศูนย์รวมสุดยอดไลฟ์สไตล์แห่งอนาคตของเอเชีย พร้อมผลักดันไทยเป็น ศูนย์กลางการช้อปปิ้งของภูมิภาครับกำลังซื้อมหาศาลจากการเปิด AEC

กรุงเทพฯ – 29 มกราคม 2556: วันนี้ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกชั้นนำของไทย แถลง เปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการรีเทล กับโครงการ CentralWestGate (เซ็นทรัลเวสท์เกต) ต้นแบบ ซูเปอร์รีจินัล มอลล์ ที่ดีที่สุดในเอเชีย สุดยิ่งใหญ่อลังการ มูลค่ากว่า 10,000 ล้าน บริเวณแยกบางใหญ่ เพื่อผลักดันประเทศไทยให้เป็น ศูนย์กลางการ
ช้อปปิ้งของภูมิภาครับ AEC ในปี 2558

นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจ ออกแบบและก่อสร้าง ของซีพีเอ็น กล่าวว่า การลงทุนครั้งสำคัญของซีพีเอ็นในครั้งนี้จะเป็นการสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับประเทศไทย ในฐานะผู้นำด้านรีเทลของภูมิภาค เพื่อเป็นการยกระดับให้กรุงเทพฯ และประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางแห่งการช้อปปิ้งของภูมิภาค เหมือนมหานครของโลก โดยซีพีเอ็นจะเป็นผู้นำในการเปิดมิติใหม่ของ แยกบางใหญ่ซึ่งเป็นสุดยอดทำเลศักยภาพสูงแห่งอนาคต เราจะเนรมิตที่นี่ให้เป็น เมืองใหม่ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด เพื่อเป็น New CBD ศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งใหม่ของประเทศ เป็นศูนย์กลางที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การขยายเมืองใหม่ของภาครัฐ

ซีพีเอ็น เป็น Growth-Driven Company ที่เป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาสร้างความเจริญให้กับประเทศและสังคมไทย การพัฒนาโครงการต่างๆ ของเรามีส่วนช่วยสร้างการเติบโตให้ประเทศในหลายแง่มุม ทั้งในแง่การนำพาเศรษฐกิจ สร้างการเติบโตให้ GDP ของประเทศ สร้างความเจริญให้ชุมชน สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างมูลค่าเพิ่มในแง่การลงทุนต่อเนื่อง ทั้งโครงการที่อยู่อาศัย โครงการอสังหาริมทรัพย์และการพาณิชย์

แยกบางใหญ่เป็น “WestGate” หรือ Gateway ที่ใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯ ตะวันตก ด้วยระบบคมนาคมที่สมบูรณ์แบบ และ Megaproject จากภาครัฐ ที่เชื่อมต่อทุกเส้นทางเข้าด้วยกัน ทั้ง วงแหวนสายตะวันตก ซึ่งแยกบางใหญ่ เป็นจุดตัดถนนกาญจนาภิเษก ขนาด 12 เลน และ ถนนรัตนาธิเบศร์ขนาด 10 เลนที่มีศักยภาพในการรองรับรถยนต์กว่า 85 ล้านคันต่อปี และเส้นทางแห่งอนาคตรองรับ AEC คือ มอเตอร์เวย์สายตะวันตก บางใหญ่-บ้านโป่ง-กาญจนบุรี เชื่อมต่อท่าเรือทวาย ทะเลอันดามัน รับกำลังซื้อและ Traffic ที่จะเติบโตอย่างมากหลังเปิด  AEC รวมถึง ทางด่วนขั้นที่ 3 เชื่อมวงแหวนตะวันตกและมอเตอร์เวย์ชลบุรี และรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่-บางซื่อ ระบบขนส่งมวลชนที่จะนำพามวลชนเข้าสู่โครงการด้วย Skywalk เชื่อมตรงจากสถานี ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย กว่า 13 ล้านคน ในพื้นที่รัศมีการเดินทางในระยะ 1 ชั่วโมงครึ่ง 8 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี อยุธยา นครปฐม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี และในอนาคตเมื่อวงแหวนรอบ 3 แล้วเสร็จ จะสามารถครอบคลุมได้ถึง 15 จังหวัด นอกจากนี้ ที่นี่จะเป็นศูนย์กลางแหล่งที่อยู่อาศัยในอนาคต ซึ่งคาดการณ์ว่าการเติบโตของโครงการที่อยู่อาศัยในพื้นที่นี้จะสูงถึงกว่า 150,000 ยูนิต ในอีก 5 ปีจากนี้


นางสาววัลยา กล่าวว่า โครงการนี้จะเป็น Talk of the Town ของเอเชีย รับการเปิด AEC ในปี 2558 เพราะโครงการนี้จะเป็นต้นแบบ ซูเปอร์รีจินัล มอลล์ ที่ดีที่สุดในเอเชีย สุดยิ่งใหญ่อลังการ ด้วยมูลค่าการลงทุนทั้งโครงการกว่า 10,000 ล้าน ซึ่งที่นี่จะไม่ได้เป็นแค่ศูนย์การค้าแต่จะเป็น เมืองศูนย์รวมสุดยอดไลฟ์สไตล์แห่งอนาคตของเอเชีย ด้วยพื้นที่โครงการเต็มเฟสขนาด 500,000 ตร.ม. บนพื้นที่ใหญ่ 100 ไร่ โครงการนี้จะเป็นโครงการ Mixed Use ที่สมบูรณ์แบบที่สุด ด้วยดีไซน์คอนเซ็ปต์สุดล้ำระดับโลกภายใต้แนวคิด “MetAsia” เมืองศูนย์รวมสุดยอดไลฟ์สไตล์แห่งอนาคตของเอเชีย

CentralWestGate จะประกอบด้วยศูนย์การค้า ไลฟ์สไตล์คอมเพล็กซ์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ Attraction ระดับโลก และ โครงการที่อยู่อาศัย ซึ่ง Anchor หลักและร้านค้าในโครงการจะพลิกโฉมเนรมิต ร้านคอนเซ็ปต์ใหม่ทั้งหมดในรูปแบบ Super-Size Shop นอกจากนี้ ที่นี่จะเป็นศูนย์รวมร้านค้าแบรนด์ชั้นนำ ทั้งไทยและอินเตอร์กว่า 1,000 ร้านค้า มีFashion Brand ระดับโลก และเป็น Dining Destination แห่งใหม่ที่รวมร้านอาหารคอนเซ็ปต์ใหม่ที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ รวมถึงสุดยอด Entertainment Complex ที่ทันสมัยที่สุด ที่จะพร้อมเปิดให้บริการในช่วงในต้นปี 2558 และคาดว่าเมื่อเปิดให้บริการจะมีผู้มาใช้บริการต่อวันกว่า 200,000 คน

CentralWestGate เป็นแบรนด์ใหม่ล่าสุดของซีพีเอ็น ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงและสื่อสารถึงศักยภาพของความยิ่งใหญ่ของโครงการที่จะเป็นต้นแบบ ซูเปอร์รีจินัล มอลล์ ที่ดีที่สุดในเอเชีย สุดยิ่งใหญ่อลังการ ตอบโจทย์โพสิชั่นนิ่งของโครงการในฐานะ เมืองศูนย์รวมสุดยอดไลฟ์สไตล์แห่งอนาคตของเอเชีย และ “WestGate” ยังหมายถึง แยกบางใหญ่ที่ตั้งของโครงการซึ่งเป็น Gateway ที่ใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯ ตะวันตก 

วันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เบื่อโฆษณาแฝง ตอนเชียร์กีฬา

จากการนั่งอ่าน ในFB ของเพื่อน มีแต่ประเด็น เรื่องมวย ..
เรื่องวันแม่กลายเป็นเรื่อง รอง ลงมาเลย...

มวยมันจะแพ้ หรือชนะ มันเป็นเพียงกีฬา...
การชกมวย ครั้งนี้ มันบอกถึง มาตรฐาน ระดับโลก มันคืออะไร ?

โลก ทุกวันนี้ มันไม่เท่าทียม ยุติธรรม เลย...

เพราะกีฬา เป็นเรื่องการเมือง..เรื่องเศรษฐกิจ...

เชียร์มวย ที่บ้าน ของนักมวยทั้งเมีย และ แม่ เจอแต่สปอนเซอร์ โฆษณา เหล้า เบียร์ น้ำอัดลม 
แถมมีการเต้นโคโยตี้ ด้วย...ไปกันใหญ่ มาเชียร์มวยหรือมาดูสาวนุ่งน้อยห่มน้อย ลูกเด็ก เล็ก แดง ซึมซับสิ่งไม่ดี และโฆษณาแฝงเยอะไปหมด...

ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่ประเทศไทยจะจำกัดสื่อโฆษณาแฝงพวกนี้...

หรือ จะให้บ้านอื่นเมืองอื่นเขาดูถูกประเทศไทย ซื้อของ บ้าเห่อเพราะ โฆษณา ไม่ได้ดูคุณภาพของสินค้า...

วันนี้อ่านหนังสือนิตยสารการตลาด ผู้บริหาร ของห้างฟอนิเจอรายใหญ่ แถวประเทศเมืองหนาวมาเปิดเมืองไทย...

เขาบอกว่าเมืองไทยเป็นตลาดมีสีสัน เพราะคนกำลังซื้อของเพื่ออวดรวย อวดบารมี และนิยมความทันสมัย..

ซึ่งเขาเปรียบเทียบว่าบ้านเขา ไม่ใช่แบบนี้ ซื้อของตามใช้งานและประโยชน์ใช้สอย..

และสรุปว่า บ้านเราการตลาดมีสีสัน กว่าบ้านเขาเยอะ...

อันนี้เป็นมุมมองฝรั่งมองเรา...ลองๆนึกดู... เห่อๆ ประเทศไทยจงเจริญ นักธุรกิจยังอาศัยการตลาดมามอมเมาเยาวชน....

อยากได้เงินเยอะ...ต้องมั่นฝึกซ้อม...

ฉันนี่แหละผู้สนับสนุน รายใหญ่...

บริษัทผู้ใจบุญทั้งหลาย ครับ...ถ้าอยากสนับสนุน เชิญสนุับสนุน ตั้งแต่เขาเก็บตัวฝึกซ้อม...ไม่ใช่มาหาผลประโยชน์ ตอนเขาประสบความสำเร็จ...แล้วคนที่ทำเพื่อชาติหลายคนไม่ประสบความสำเร็จ คืออะไร...

คุณต้องเข้าไป ดูแล ตั้งแต่เขาเริ่มต้น..การกีฬาไทยถึงจะพัฒนามากกว่านี้...ไม่ตกต่ำ และมั่วโทษ นั้นโทษนี้...หาเหตุผลเข้าข้างตนเอง...

ก็เป็นเพราะพวกเราทุกคนนี้ไม่ใช่หรือสนับสนุน นักกีฬาแบบผิดๆ...และฉกฉวย โอกาสโฆษณาสินค้าและผลประโยชน์ต่างตอบแทน...

วันศุกร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ทักษะเบื้องต้นการประสานงาน


คอนแบคได้กล่าวไว้ว่า “ความรู้  คือ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอันเนื่องมาจากประสบการณ์

มันอาจเป็นคำนิยามกว้างๆ ยังไม่ลงซึ่งรายละเอียดว่ามันคืออะไร อย่างไร แต่มันสอดคล้องที่จะอธิบายตน ว่ากระมีความรู้อะไรบ้าง

หากดูในนิยามของ คอนแบค จะมีคำสำคัญอยู่ 3 คำ คือ

1.การเปลี่ยนแปลง
2.พฤติกรรม
3.ประสบการณ์

การที่คนเราได้เรียนรู้จากสิ่งต่างๆ ทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลง และได้สัมผัส โดยประสาทสัมผัสทั้ง 5 คือ ตา หู จมูก ลิ้น สัมผัส  ทำให้เกิด การได้เห็น การได้ยิน การได้กลิ่น การได้ลิ้มรส   การได้สัมผัส  สิ่งไหนดี สิ่งไหนไม่ดีเกิดการเรียนรู้และสะสมเป็นความรู้ในชุดหนึ่งในตัวของเรา


หลายท่านอาจมากว่า การประสานงาน เป็นอาชีพได้ด้วยเหรอ ?  แล้วทำอะไรบ้าง?
การประสานเป็นหัวใจของทุกองค์กร ที่ทำงาน ไม่ว่าหน่วยงานไหน แต่อาจแทรกในตำแหน่งต่างๆเพราะทุกอย่างมนุษย์ทำงานร่วมกันต้องติดต่อประสานงานกัน เพื่อให้เกิดงานและบรรลุวัตถุประสงค์ร่วมกัน แต่หากในที่นี้จะกล่าวโดยเฉพาะคือ ตำแหน่งประสานงาน เพราะเปรียบเสมือนจุดเชื่อม การทำงาน โดยการสื่อสารภายใน ในภายนอกขององค์กรให้เกิดการเรียนรู้ การทำงาน ขับเคลื่อนองค์กรให้สู่เป้าหมาย ยุทธศาสตร์ ขององค์กรให้สำเร็จได้
            การประสานงาน นั้นใช่ว่าทุกคนจะทำได้เพราะเป็นงานที่ต้องอาศัยทักษะ ความรอบด้าน ประสบการณ์ โดยต้องเข้าใจสถานการณ์รอบด้าน และมองทุกอย่างให้ ทะลุปรุโปร่ง เหมือนที่ รศ.รังสรรค์แสงสุข อดีตอธิการบดี รามคำแหงบอกต้องมองแบบ “ ซีทรู”  คือเห็นทุกมิติ เข้าใจทุกแก่นสาร

ทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งของนักประสานงาน    

ประการแรก คือ การสื่อสาร เพราะการสื่อสารเป็นหัวใจ ของการติดต่อประสานงาน การทำงานงานร่วมกันทั้งภายในภายนอกองค์กร ต้องมีทักษะการสื่อสาร ทั้งจิตวิทยาของผู้สื่อสารและการรับสาร หากขาดหัวใจ ส่วนนี้แล้วย่อมทำให้เกิดความผิดพลาดล้มเหลวในการทำงาน            
ประการที่สอง คือ ทักษะการเป็นนักกระบวนการ คือ การจัดประชุม สัมมนา ดึงการมีส่วนร่วม จากผู้ที่ทำงานร่วมกันและผู้เข้าร่วมประชุม เพื่อให้เกิดการพัฒนาต่อยอด ความรู้ หรือจุดประสงค์ของการทำงาน อาจเป็นโครงการ หรือยุทธศาสตร์ ทักษะตรงนี้สำคัญมาก            
ประการที่สาม คือ ทักษะด้านจิตวิทยา คือ การเห็นปรากฏการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น งานด้านติดต่อประสานงานเป็นงานที่อาศัยความรอบด้านด้าน เหมือนที่กล่าวมาข้างตน การที่เข้าใจการเปลี่ยนแปลง และปรับเปลี่ยนได้เสมอ เป็นสิ่งที่สำคัญและมีความจำเป็นมาก หากปรับเปลี่ยนไม่ทันก็อาจทำให้งานนั้นล้มเหลวและไม่ประสบความสำเร็จได้            
ประการที่สี่ คือ เป็นนักแสวงหาความรู้ คือ เท่าทันความรู้ นวัตกรรมใหม่ๆ โดยสามารถนำเสนอและแลกเปลี่ยนได้ในที่ประชุม ซึ่งการเป็นนักแสวงหาความรู้นี้จะเป็นการเติมเต็มงานและเสนอสิ่งใหม่ๆให้เกิดการขับเคลื่อนประสานงานและพัฒนาได้          

สิ่งเหล่านี้ได้มาจากไหน? อย่างไร นำไปใช้ประโยชน์อย่างไร             สิ่งเหล่านี้ คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ได้มาจาก ประสบการณ์ จากการทำงาน ก่อนจะได้ประสบการณ์เหล่านี้ คือ โอกาส  ซึ่งหมายถึง การได้ทำงานและสะสม จนเกิดเป็นทักษะโดยหมั่นฝึกฝนเรียนรู้ ถอดบทเรียนทั้งด้วยตนเอง และประชุมกับผู้ร่วมงาน ให้เกิดการสะท้อน ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม จนเกิดเป็นความชำนาญ ความเป็นนักวิชาชีพ  โดยการประสานงานจะเป็นอาชีพที่เกื้อกูลตัวเราและองค์กร พัฒนาองค์กร สิ่งที่สำคัญที่ลืมไม่ได้ของนักประสานงาน คือพัฒนาตนเองสม่ำเสมอและเป็นนักแสวงหาความรู้นวัตกรรมเสมอ ด้วยเหตุผลที่ได้อธิบายทั้ง4ประการ คุณก็จะเป็นนักประสานงาน

วันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เจริญแบบไหน หน้อ เชียงราย

คนหลายคนหนีกลับไปอยู่บ้านที่เชียงราย หรือย้ายไปอยู่ เชียงรายเพื่อจะได้อยู่แบบสงบ ธรรมชาติ...

แต่เอาเข้าจริง เจอทั้งปัญหาหมอกควัน และความเจริญที่กำลังเจริญแบบไม่ลืมหูลืมตาแบบไร้ทิศทาง..โดยเฉพาะการเข้ามากอบโกยของทุนส่วนกลาง และต่างชาติ 

คงตามกระแสโลก...ถ้ากระแสโลก ไม่เปลี่ยน เป็น วิถี ชีวิต ที่เรียบง่าย...เพราะตอนนี้มีแต่ทุนนิยม...
มือใครยาว สาวได้สาวเอา..บริษัทใหญ่ๆ มาลงทุนช่องทางหารายได้และเติบโตของบริษัท..เพราะใน กทม. เต็มแล้ว...จึงมาขุดทอง ตจว.

ตัวอย่างเช่น เซ็นทรัล ตอนนี้มี 18 สาขา อนาคตปี 58 ตั้งเป้า 30 สาขา ส่วน MBK เขาก็มีแผนเหมือนกัน ส่วนเดอะมอลล์ก็มีแผน อาจช้าหน่อย เพราะไม่ใช่บริษัทมหาชน บริหารโดยครอบครัว บริหารแบบชิลๆ สร้างทุกที่ต้องดังและเติบโตไม่ต้องกระตุ้นตลาดอีเว้นเยอะ ไม่หวังยอดโต 15 % ต่อปี เหมือนบางบริษัท

ลงนึกภาพดู ภาพโรงงานนรกเกิดขึ้น...คนท้องถิ่นเข้ามาทำงานห้าง ลืมอาชีพเดิม ลืมความสุขที่ได้ทำงานอยู่กับครอบครัว....ทำงาน 9โมง ห้างปิด 3 ทุ่ม มีเวลาพัก 1-2 วัน เวลาอยู่กับครอบครัวอยู่ตรงไหน?

ห้างเหล่านี้แหละสร้างไลฟ์สไตล์ และพฤติกรรมที่ผิดเพี้ยนไปจากเดิมของวิถีชีวิตคนเมือง...จับตาดูกลยุทธและวิธีการตลาด ดีๆ ครับ...ประโยชน์อาจตกอยู่กับเรา..แต่เราได้มากหรือน้อย...

"มีคนกล่าวว่า คนไทยซื้อสินค้าตามโฆษณา ฝรั่งซื้อสินค้าตามฉลาก บริษัทต่างๆจึงโหมโฆษณาสินค้า เพราะคนไทยเชื่อเพราะเขาบอก กลยุทธนี้จึงใช้ได้ดี..."

มันเป็นคำหลอกด่า...คนไทยดีๆนี่เอง

รอดูต่อไป AEC ปี 58 ใครมาบ้าง แต่รับรองทุนใหญ่ๆผุดเหมือนดอกเห็ดแน่...

เราอาจได้มาร้องเพลง เชียงรายรำลึก นึกถึง วัฒนธรรมเดิมๆบ้านเฮา...บ้านนอกเจียงฮาย..

วันอังคารที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ปลุก ความบ้าน ในตัวคุณ


พูดไป หลายคนอาจไม่เชื่อ....

- ผมเป็นคนที่บ้าตึกมาก......ชอบตึก รามบ้านช่อง..
ชอบการออกแบบห้างสรรพสินค้า....จนมีคนแซวว่าผมเป็นเขยเซ็นทรัล...รู้เรื่องต่างๆ และเก็บภาพทุกที่มาหมด...
วันไหนที่ผมไม่เสพข้อมูลพวกนี้ ผมจะอึดอัด..กระวนกระวาย เหมือนคนลงแดงติดยา...

- ผมเป็นคนชอบดูหนังในโรงภาพยนตร์มาก...ถ้าอาทิตย์ไหนไม่ไปผมจะรู้สึก ไม่มีพลัง และสูญเสียโลกแห่งความคิดสร้างสรรค์

- ผมเป็นคนบ้าที่ชอบ นั่งฟังคนพูด มาก...หลายคนอาจมองว่าน่าเบื่อ แต่คนที่พูดโดยเฉพาะอาจารย์ที่เก่งๆ นำประสบการณ์ชีวิตมาเล่า....เชื่อไหม ในเจ็ดวันของสัปดาห์ ผมเคยมี นั่งเรียน ตั้งแต่ 07.30 - 3 ทุ่ม..บ่อยๆ...
มันมีความสุข..ที่ได้ฟังความรู้ของคนที่มันตกทอด รุ่นต่อรุ่น มันเป็นอารยธรรมโลก.ที่เชื่อมโยงกัน.เป็นสิ่งที่น่าจดจำ เป็นเรื่องเล่าที่สุนทรียะมาก....

- ผมชอบมีเพื่อนที่หลากหลายกลุ่ม ผมเป็นเพื่อนได้กับทุกคน เพราะจะทำให้ผมได้แลกเปลี่ยน หลายอย่างๆ เช่น วิธีคิด มุมมอง เพราะทุกคนหลอหลอม มาต่างกัน..ยิ่งเราอยู่ความหลากหลาย ยิ่งทำให้เราเห็นมิติ ที่หลายๆมุม 

- ผมไม่เคยโกรธใครได้นานเกิน 30 นาที...เวลาผมโกรธใครสิ่งที่กลับมาย้อนดูสิ่งแรก คือย้อนกลับมาดูที่ตัวเรา..ว่าไม่ตรงกับจริตเราตรงไหน..นั้นคือเหตุแห่งทุกข์และความขัดแย้ง.............

อ่านหนังสือก่อน...แล้วเจอกันวัน...พรุ่งนี้ที่สดใส หลังฝนตก

29 มิถุนายน 55